พวกเราแต่ละคนเดินกลับห้องพักเวลา 2 ทุ่มครึ่ง บริเวณทางเดินลื่นและดินชื้นแฉะ เนื่องจากฝนตกหนักอย่างบ้าคลั่งก่อนหน้านี้
ตามทางเดินใบไม้ตกเกลื่อนลายตา กลิ่นหอมของแมกไม้และดินชุ่มชื่นโชยแตะจมูก ทุกคนมีความสุขหลังกิจกรรมถอดพี่รู้น้องครั้งที่
2 สิ้นสุดลง
การดำเนินกิจกรรมพบน้องครั้งนี้พวกเราครูกลุ่ม 2 ไม่มีคุณครูสังข์
เนื่องจากพานักเรียน ป.6 ไปทัศนศึกษาที่กรุงเทพฯ ก่อนการดำเนินกิจกรรมในครั้งนี้
พวกเราพูดคุยวางแผนกิจกรรมต่างๆ ไว้ก่อน คุณครูน้ำผึ้งได้เขียนเรียบเรียงส่งแจ้งในเมลครูไว้ดังนี้ครับ
BAR กิจกรรมพี่พบน้อง สรุปประเด็นกิจกรรมได้ดังนี้
- เริ่มต้นด้วยกิจกรรม "พิธีชา"
- มีการร้องเพลง
"เราคือใบไม้ต้นเดียวกัน". ร่วมกันระหว่างพี่น้อง
เป้าหมาย
คือ เป็นการเริ่มต้นของกิจกรรมต่างๆ อย่างมีสติ
- กิจกรรม พี่เล่าประสบการณ์ดีๆ ในการทำงานและประเด็นต่างๆ
ในการใช้ชีวิต และการเลือกที่จะอยู่เป็นคุณครูที่นี้ให้น้องๆ ได้ร่วมเรียนรู้และร่วมตั้งคำถามในประเด็นต่างๆที่น้องๆสนใจอยากจะถามพี่แต่ละคนที่ถ่ายทอดประสบการณ์
- เล่นเกม "แบ่งกลุ่มโดยจักวาล".
ก่อนเริ่มกิจกรรมต่อไป
- กิจกรรม
ถอดสิ่งที่น้องต้องการพัฒนาตนเองในด้านต่างๆ ของแต่ละคน (โดยใช้เครื่องมือคิด Place mat) เป้าหมาย
คือ ได้มองเห็นความต้องการของตนเองที่ต้องการพัฒนาศักยภาพด้านต่างๆ
โดยเรียงลำดับความสำคัญลดหลั่นไปตามที่ได้ร่วมเสนอแนะ (และจะใช้ในการจัดกิจกรรมพัฒนาน้องๆ
ในสัปดาห์ต่อไป)
-
ปิดท้ายด้วยกิจกรรมขอบคุณและให้กำลังใจซึ่งกันและกันระหว่างพี่ๆ กับน้อง
พร้อมทั้งรวมร้องเพลง "ขอบคุณใจเธอ"
เป้าหมาย
คือ ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน. มองเห็นคุณค่าความเป็นตัวตนและสร้างสัมพันธภาพที่ดีซึ่งกันและกัน
*หมายเหตุ กิจกรรมจะจัดขึ้นในวันพฤหัสบดี
ที่ 4 ธันวาคม 2557 เวลา 16.40. น.
เป็นต้นไป
กิจกรรมในวันนี้พวกเราค่อนข้างคุยกันนาน
เพราะว่าตรงกับช่วงหยุดยาว 3 วัน(หยุดวันพ่อ
5 ธันวา
ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์) เรากังวลกันว่า..กิจกรรมครั้งนี้จะดำเนินไปด้วยความเบื่อหน่ายของน้องๆ
ครูใหม่ จนสุดท้ายแล้ว เราก็ได้ข้อสรุปกัน คือ นัดพบน้องในวันที่ 4 ธันวา เหมือนเดิม
ครูต๊อกทำหน้าที่ส่งเมลครูแจ้งวันเวลา
นัดหมายน้องๆ ส่งถึงคุณครูนอกกะลาทุกคน ดังนี้ครับ
สวัสดีคุณครูทุกท่าน
ครูพี่กลุ่มที่ 2 ขอแจ้งกิจกรรมถอดพี่รู้น้อง ให้กับครูน้องกลุ่มที่ 1
และน้องฝึกสอน จัดกิจกรรมในวันพฤหัสบดี ที่ 4 ธันวาคม 2557 เวลา 16.30 น. ณ
ห้องประชุมเล็ก
ครูน้องกลุ่มที่ 1 และน้องฝึกสอน
เข้าร่วมกิจกรรมตามวันและเวลาดังกล่าว ครับ
ขอบคุณครับ
พอถึงวันพบน้องๆ ครูใหม่ครั้งที่ 2 พวกเราทุกคนต่างตื่นเต้นกันมาก พวกเรานัดกันมาเตรียมอุปกรณ์ก่อนเวลากำหนดกว่าครึ่งชั่วโมง
เพื่อที่จะเหลือเวลาซักซ้อมลำดับกิจกรรมต่างๆ จัดเตรียมสถานที่และเครื่องชุดทำพิธีชา
ทุกคนต่างมีไมตรีจิตที่ดีต่อมีความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกันกับการเตรียมงานในครั้งนี้
เพื่อน้องๆ ครูใหม่ที่จะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้
ถึงเวลา.. 16.40 น.
พิธีชาเริ่มจากพวกเราทุกคนเป็นผู้บริการชาให้กับน้อง
เราจัดเตรียมสวนดอกไม้เล็กๆ ประดับประดาด้วยเทียนหอม กระถางไม้ดอกวางจัดอย่างไร้ระเบียบ
แต่แลมีพลังแฝงไปด้วยความหมายในตัว
น้องหลายคนต่างตื่นเต้นกับการได้ดื่มด่ำในบรรยากาศที่เงียบสงบ
ได้ยินเพียงเสียงแอร์ที่ติดอยู่ด้านบนทางทิศใต้ของห้องที่เราทำกิจกรรม คุณครูบาสที่เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ยังไม่ถึงสัปดาห์ต่างงงงวยกับสิ่งที่เห็นและมีใบหน้าที่เปี่ยมด้วยความอิ่มเอมเชื่อมรับกับพิธีกรรมที่เรียบง่าย
บรรยากาศอยู่ในความรื่นรมย์ เมื่อถ้วยชาและถาดขนมอยู่ตรงหน้าของทุกคนในวงแล้ว
ผมเริ่มด้วยเรื่องเล่า ‘ต้นไม้ปัญหา’ เนื้อเรื่องดังนี้ครับ
ช่างไม้ที่ฉันจ้างมาซ่อมบ้านต่างจังหวัด
เพิ่งเสร็จงานอย่างทุลักทุเล ยางรถที่แตก ทำให้เขาเสียเวลางานไปกว่าชั่วโมง
เลื่อยไฟฟ้าก็เสีย แล้วนี่รถปิ๊คอัพโกโรโกโส ก็สตาร์ทไม่ติดเสียอีก
ฉันจึงต้องขับรถไปส่งเขาที่บ้าน เขานั่งเงียบตลอดทาง
เมื่อไปถึงเขาพาฉันไปรู้จักกับสมาชิกในครอบครัว
ในระหว่างที่เราเดินผ่านประตูรั้ว
เขาหยุดครู่หนึ่งที่ต้นไม้หน้าบ้าน
เอามือทั้งสองขึ้นไปเหนี่ยวกิ่งใหญ่ชั่วครู่หนึ่ง เมื่อไปถึงประตูบ้าน
สีหน้าของเขาแช่มชื่นเป็นคนละคน เขาสวมกอดลูกชายเล็กๆ ทั้งสอง
รวมทั้งหอมแก้มภรรยาหลังจากนั้น เขาก็เดินมาส่งฉันที่รถ
เราเดินผ่านต้นไม้ต้นเดิม ฉันอดไม่ได้ที่จะถามเขาด้วยความอยากรู้ว่าเขายกมือทั้งสองเหนี่ยวกิ่งไม้ตอนขาเข้ามาทำไม?
อ้อ..นั่นมันต้นไม้ปัญหาของผมเอง
เขาตอบปัญหาในการทำงานเกิดขึ้นกับผมเสมอๆ แต่ที่แน่ๆ สิ่งหนึ่งก็คือ ปัญหาต่างๆ พวกนี้ไม่ใช่ปัญหาของคนในบ้านไม่ว่าจะเป็นภรรยาหรือลูกๆ ดังนั้นผมก็เลยแขวนปัญหาทั้งหมดที่มีในแต่ละวันไว้ที่ต้นไม้ต้นนี้ก่อนเข้าบ้าน
แล้วผมก็จะเอาปัญหาที่แขวนไว้ออกไปกับผมใหม่ในตอนเช้า
เขายิ้ม
คุณรู้ไหม?
ที่แปลกก็คือ
ดูเหมือนปัญหาที่ผมเอาติดตัวกลับไปทำงานในทุกเช้า
ไม่เคยมากเท่าตอนเอามาแขวนเลยสักที
ผมเล่าจบลง..
เชิญทุกคนดื่มน้ำชา พร้อมกับรับประทานขนมที่พี่ๆ
เตรียมไว้ให้ด้วยความละเอียดลออ ใส่ใจทุกรายละเอียดในถาดตรงหน้า ท่ามกลางบรรยากาศที่รื่นรมย์
พอเวลาผ่านไปได้สักระยะ เราเห็นว่าเหมาะต่อการดำเนินกิจกรรมต่อไป
เราได้เชิญให้น้องๆ ที่อยากให้พี่ๆ คนไหนเล่าเรื่องราวชีวิตการมาเป็นครูนอกกะลาให้ฟัง
น้องๆ ได้เลือกตัวแทนพวกเรา 3 คน คือ
ครูน้ำผึ้ง ครูเส็ง ครูเจษ ได้เล่าถ่ายทอดประสบการณ์ที่ผ่านพบจากการมาเป็นครูที่นี่
น้องหลายคนต่างตั้งใจฟังพี่แต่ละคนถ่ายทอดอย่างใจจดใจจ่อ จากนั้นน้องๆ อีก 3 คน (ครูแอมป์ ครูกิ๊ฟ ครูนุ่มนิ่ม) ก็ได้เล่าถึงแรงบันดาลใจที่ทำให้ตัวเราทำงานในโรงเรียนจนถึงทุกวันนี้หรือเล่าถึงเหตุการณ์ที่เราภาคภูมิใจที่สุดในการมาเป็นครูนอกกะลา
แต่ละคนต่างเล่าความรู้สึกที่เป็นตัวขับเคลื่อนให้พวกเขาได้มีพลังใจทำงานแต่ละวัน เหตุการณ์ต่างๆ
มากมายที่ได้เข้ามาเป็นบททดสอบ คุณครูนุ่มนิ่มเล่าถึงชีวิตที่ต้องออกไปสอบแข่งขันบรรจุครูที่แสนลำเค็ญ
เพื่อนครูนุ่มนิ่มที่สอบได้แล้วดูจะมีความสุขกับชัยชนะที่ได้
แต่ไฉนเลยมันได้ได้สวยงามอย่างที่วาดฝันไว้ เพื่อนครูนุ่มนิ่มไม่มีความสุขในการทำงานเลยสักวัน
ท้อแท้หมดพลังใจกับการทำงานแต่ละวันจนอยากจะลาออก ครูนุ่นนิ่มเล่าต่อ..ถึงตอนที่เคยฝึกสอนอยู่ที่นี่
“การเป็นครูที่ได้ทำหน้าที่ครูอย่างเต็มรูปแบบ ทุกกระบวนท่า”
ก่อนกิจกรรมพิธีชาจบลง
ครูน้ำผึ้งได้เล่าถึงความเป็นมาของพิธีชา 17.30
น. และพวกเราร้องเพลง ‘ใบไม้ต้นเดียวกัน’
ครูน้ำผึ้งได้แบ่งกลุ่มน้องๆ ออกเป็น 3 กลุ่ม กับพวกเรา 2 กลุ่ม
กลุ่ม 1
ครูจุล ครูแต ครูเหมียว ครูแอมป์
กลุ่ม 2
ครูหนัน ครูเดียร์ ครูเฟิร์น ครูอุ๋ม
กลุ่ม 3
ครูบาส ครูดอกไม้ ครูกี๊ฟ ครูนุ่นนิ่ม
กลุ่มพิเศษ 1
ครูต๊อก ครูแดง ครูป้อม ครูเส็ง , กลุ่มพิเศษ
2 ครูฟ้า
ครูน้ำผึ้ง ครูฝน ครูเจษ
พวกเราทุกคนได้รับโจทย์ “เราคิดว่าอะไรที่เราทำได้ดีแล้ว
ในการทำงานที่นี่?” Place mat ให้เวลาในการทำภาระงานนี้ไม่นาน
พอเสร็จให้แต่ละกลุ่มนำเสนอสั้นๆ
จากนั้นโจทย์ต่อมา “อะไรบ้าง?
ที่เราอยากพัฒนาเพิ่ม” Card and Chart เราแจกกระดาษให้น้องๆ
เขียนๆๆ ลงแล้วนำไปแปะไว้ที่ฝาผนังด้านหลังทางทิศตะวันออก จากนั้นพวกเราช่วยสลับสับเปลี่ยนโยกย้ายสิ่งที่ต้องการพัฒนาไว้อยู่ในหมวดเดียวกัน
แล้วลำดับสิ่งที่แต่ละคนสนใจไว้เป็นหัวข้อใหญ่ๆ ดังนี้
- PBL
- นวัตกรรม / ความรู้ใหม่
- การเก็บเด็ก / การจัดการในชั้นเรียน
- จิตศึกษา
- การสื่อสาร
- การจัดเวลา
- ดนตรี
พวกเราต่างฉงนสนเท่ห์กับการที่จะช่วยกันจัดลำดับกิจกรรมที่จะพาน้องๆ
พัฒนา ระหว่างที่ให้น้องพักเบรกสั้นๆ พวกเรารีบปรึกษาหารือกันอย่างรวดเร็ว
ครูน้ำผึ้งกับครูแดงเสนอให้พวกเราเขียนแต่ละหัวข้อไว้ตรงกลาง
กระดาษ วางไว้จุดต่างๆ
ทั่วห้อง แล้วให้เราทุกคนเดินวนเขียนๆๆ ‘เราจะเรียนรู้กับเรื่องนี้ด้วยวิธีไหน
/ เราเคยทำอะไรบ้างและภูมิใจกับเรื่องนี้’ 18.40 น. เขียนจนครบ ทุกคนกลับมานั่งวงกลม
ก่อนที่พี่น้องจะพูดคุยผ่อนคลายในวงอย่างปีติสุขใจ
ขณะที่ด้านนอกฝนกระหน่ำสาดใส่หน้าต่าง เสียงฟ้าร้องดังมารอบทิศเป็นระยะ
ท่ามกลางวงเล็กๆของครูเกือบสามสิบชีวิต ทุกคนทานขนมที่เหลือจากพิธีชากินรองท้อง
เพื่อประทังความหิวให้ทุเลาลดลง
ครูต๋อยฝากให้ผมแจ้งการบ้านน้องๆ “ให้น้องๆ
คิดแผนงานหรือแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการบ้าน” และท้ายกิจกรรมที่เราซักซ้อมกันมาก่อนหน้านี้นั้นคือกิจกรรมร้องเพลง
‘ด้วยความขอบคุณ’ เราเปลี่ยนกิจกรรมโดยฉับพลันเป็นการส่งมอบแจกันดอกไม้
แล้วให้ทีละคนกล่าวขอบคุณต่อสรรพสิ่ง และแจกสมุดบันทึกเล่มเล็กให้น้องเขียนบันทึกสิ่งที่ได้เรียนรู้หรือความรู้สึกจากกิจกรรม และเขียนMind mapping ที่บ่งบอกตัวเราเอง.
หลังจากน้องๆ แยกย้ายกลับ 20.12 น.
พวกเราประชุมกันต่อสรุปกิจกรรมAAR เล่าถึงสิ่งที่เราแต่ละคนประเมินกิจกรรมวันนี้
พวกเราเห็นน้องๆ เหนื่อยล้ากับการสอนมาตลอดสัปดาห์ บางคนรอคอยให้กิจกรรมจบลงกึ่งเหนื่อยหน่ายกึ่งกระวนกระวายให้มันผ่านพ้นไปไวๆ
(อาจจะเหมือนเราตอนเป็นครูใหม่) เราได้เรียนรู้น้องหลายคน ผ่านการให้ความร่วมมือในกิจกรรมครั้งนี้
การที่น้องตั้งคำถามเพื่อเปิดใจในการเรียนรู้ การเสียสละเวลามาร่วมกิจกรรมพัฒนาความเป็นครูนอกกะลา..สิ่งที่เห็นในวันนี้
หากย้อนกลับไปเมื่อ 3-5 ปีเราเพียงมองตากันไม่ต้องเอื้อนเอ่ยก็คงรู้กิจกรรมต่างๆ
ที่พวกเราได้เคยทำกิจกรรมพัฒนาครูร่วมกันมาในแต่ละสัปดาห์ๆ
และพวกเราได้ร่วมกันคิดวางแผนกิจกรรมในครั้งต่อไปBAR การนัดน้องครั้งต่อไปกับกิจกรรมสังเกตการณ์การสอนหรือกิจกรรมจิตศึกษาน้องๆ
แต่ละคน
ขอบคุณกับการเรียนรู้ที่มีคุณค่าพลังซ่อนเร้นทุกอณู
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น