วันศุกร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2558

จิตศึกษา(ครูใหม่) เวียนทำจิตศึกษา(1) -ครูหนัน, ครูเสก, ครูณัฐ, ครูดอกไม้

กิจกรรม จิตแปลงร่างไม้ไอศครีม - โดย ครูหนัน
เป้าหมาย
- บ่มเพาะจิตสำนึกที่ดีงาม
- มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่ทำ
- เห็นความเชื่อมโยง เห็นคุณค่าของตัวเอง คนอื่น หรื่อสิ่งของ
- มีความรัก ความเมตตา เคารพนอบน้อมต่อสรรพสิ่ง
กระบวนการดำเนินกิจกรรม
- Brain Gym กำกับสติ 2 ท่า ท่ากำแบ 10 ครั้ง ขนมจีบ,ตัวแอล 10 ครั้ง
- ครูหนันมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับกล่องวิเศษมาให้เด็กๆได้ฟังเพื่อเชื่อมโยงเข้าสู่กิจกรรม
- ครูให้นักเรียนแปลงร่างไม้ไอศครีมเป็นรูปร่างที่มีความหมายกับตัวเอง คุณครูหนันชื่นชมคนที่รู้เวลา ครูหนันจะส่งพี่กล่องไม้ไอศครีมไปหาคนที่น่ารัก คนที่น่ารักจะไหว้ขอบคุณเพื่อนด้วยความน้อมน้อม เมื่อๆเพื่อนๆได้ไม้ไอศครีมครบทุกคนแล้วเราจะทำไปพร้อมๆกัน
- เมื่อแปลงร่างเสร็จแล้วครูมีคำถามนักเรียนว่าเพราะเหตุใดพี่ป1ถึงแปลงร่างพี่ไม้ไอศครีมเป็นรูปนั้นๆจากนั้นครูให้นักเรียนเล่าเรื่องราวจากต่อกัน
- ครูหนันขอสัญญาณความพร้อมจากพี่ป1 คนที่น่ารักจะส่งสัญญาณให้ครูหนันโดยการนั่งตัวตรงหลังตรง
- ครูหนันขอบคุณทุกเรื่องราวดีๆทุกความตั้งใจของพี่ป1
อุปกรณ์ : ไม้ไอศครีม
...............................................................................

กิจกรรม : รู้ไหม..ว่าคิดอะไร -โดย ครูเสก
เป้าหมาย : เพื่อให้นักเรียนเข้าใจและเห็นความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับผู้อื่น มีสติอยู่กับตัวเองเข้าใจตนเองและผู้อื่น
กระบวนการดำเนินกิจกรรม
• หลังกิจกรรมเครพธงชาติ ครูพานักเรียนเดินกับกำสติ เมื่อถึงห้องมานั่งเป็นวงกลม
• ทำสมาธิสัก 3 นาที โดยให้ทุกคนค่อยๆหลับตาลง หายใจเข้าลึกๆและหายใจออกยาวๆ 5 ครั้ง สังเกตสัมผัสลมหายใจที่ปลายจมูก ข้างที่รู้สึกชัดที่สุด กลับมารู้ลมหายใจของตนเอง รู้ในการพูดและการฟัง
• ครูเล่าเรื่องเหตุการณ์หนึ่งในสมัยมัธยมเกี่ยวกับพฤติกรรมของเด็กคนหนึ่งที่ตนเองไม่ชอบให้นักเรียนฟัง
• ครูแจกกระดาษ(สีเหลือง,สีเขียวให้นักเรียน โดยส่งต่อกันไป และคนที่รับจากเพื่อนจะมีพี่ดอกบัวตูมสวยๆไหว้ขอบคุณเพื่อนด้วยความตั้งใจ และคนที่ส่งให้จะมีพี่ดอกบัวตูมสวยๆไหว้ขอบคุณเพื่อนที่ให้เราได้ส่งกระดาษให้
• ครูให้โจทย์ : ให้แต่ละคนเขียนจดหมายถึงคนที่ตนเองไม่ชอบพร้อมกับระบุชื่อคนนั้นมา เขาทำอะไรให้เราไม่ชอบ เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ไหน เหตุเกิดเมื่อไหร่ อย่างไร มีความรู้สึกอย่างไร เราอยากบอกอะไรกับเขา (ใช้กระดาษสีเหลืองให้เวลาในการเขียน5นาที)
• สุ่มนักเรียน นำเสนอให้เพื่อนฟังเกี่ยวกับสิ่งที่ตนเองเขียน
• ครูตั้งคำถาม :ถ้าเราเป็นคนนั้นเราจะทำเช่นนั้นไหม เพราะอะไร
• ครูตั้งโจทย์ : ถ้าเราเป็นคนนั้นที่เราเขียนจดหมายไปหา เราจะเขียนจดหมายตอบมาว่าอย่างไร ให้ทุกคนเขียนตอบจดหมายของตนเอง (ใช้กระดาษสีเขียวให้เวลา 5นาที)

     วันนี้วันอังคารที่แสนสดใส เรายิ้มรับวันใหม่อย่างมีความหมาย “เป็นคำทักทายของคุณครู พร้อมมีเสียงดนตรี Spa เบาๆ” แล้วให้ทุกคนหลับตาทำสมาธิ3นาที เพื่อเตรียมความพร้อม ในขณะนั้นก็ยังมีนักเรียนที่พูดกันอยู่ แล้วเสียงก็ค่อยๆเงียบลง หลังจากที่ครูพูดว่า “คนที่พร้อมจะค่อยๆเบาเสียงลง แล้วปิดเปลือกตาลงเบาๆ” ครูกล่าวขอบคุณพี่ๆทุกคนีทตั้งใจ
      ในช่วงที่ครูเล่าประสบการณ์นักเรียนตั้งใจฟังดีมาก ดูเหมือนแต่ละคนจดจ่ออยากฟังเหตุการณ์ต่างๆที่ครูกำลังพูดอยู่ แล้วย้อนกลับไปหานักเรียนทุกคนกับเหตุการณ์ไหนที่ทำให้เรารู้สึกไม่ดี ไม่ชอบเหตุการณ์นั้น
      ครูแจกกระดาษ2สีให้โดยไม่บอกว่าจะให้ทำอะไร พร้อมกับสีดินสอ ระหว่างนั้นแต่ละคนก็ยังนึกถึงเหตุการณ์ที่ครูได้ตั้งคำถามให้ทุกคนได้คิด ครูกล่าวขอบคุณคนที่ไหว้ขอบคุณเพื่อนด้วยความตั้งใจ
...............................................................................

กิจกรรมจิตศึกษา  ช้างสองตัว -โดย ครูณัฐ
เป้าหมาย
- วิเคราะห์ถึงสถานการณ์ที่แตกต่างกัน
- มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่ทำ
- เห็นคุณค่าตนเอง และความสามัคคีในการทำงานร่วมกับผู้อื่น
กระบวนการดำเนินกิจกรรม
- ครูทักทายนักเรียน
- กำกับสติโดยการ Brain Gym 2 ท่า
- นักเรียนนั่งหลับ 3 นาทีเพื่อให้อยู่กับตัวเองและนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมาในอดีต
- เรื่องเล่าเพื่อเชื่อมโยงก่อนเข้าสู่กิจกรรม
- นักเรียนแบ่งกลุ่มๆละ 5 คน (ครูฝน : ถ้าลดจำนวนลงอาจจะช่วยให้ทุกคนได้ลงมือทำและแสดงความคิดเห็นมากขึ้น)
- ครูแจกกระดาษ A3 ให้นักเรียนกลุ่มละสองแผ่น (ครูฝน : ถ้าเปลี่ยนวัสดุที่ฉีกยากขึ้นน่าจะได้วิธีคิดที่หลากหลายมากขึ้น เช่น กระดาษลัง กระดาษเหลือใช้ ปกสมุด ฯลฯ)
- กระดาษแผ่นแรก ครูให้นักเรียนช่วยกันใช้มือฉีกออกมาให้เป็นรูปช้างที่นักเรียนคิดว่าสวยงามและสมบูรณ์มากที่สุดโดยที่ “ไม่ให้ใช้เสียงคุยกัน”
- กระดาษแผ่นที่ ครูให้นักเรียนช่วยกันใช้มือฉีกออกมาให้เป็นรูปช้างที่นักเรียนคิดว่าสวยงามและสมบูรณ์มากที่สุดโดยที่ “ให้ใช้เสียงคุยกันได้”
- ครูถามคำถามนักเรียนถึงความแตกต่างระหว่างการใช้เสียงคุยกันและการไม่ใช้เสียงคุยกัน เพื่อให้เด็กวิเคราะห์ถึงช้างสองตัวที่ออกมาจากสถานการณ์ที่แตกต่างกัน
- ครูสรุปและให้ข้อคิดกับนักเรียน (ครูฝน : ครูตั้งคำถามแทน เช่น "นักเรียนได้เรียนรู้อะไรบ้างจากการทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนๆเพราะเหตุใด")
...............................................................................
ชื่อกิจกรรม "แสงแรกแห่งความประทับใจ" -โดย ครูดอกไม้
เป้าหมาย - มีสติจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ทำ
- มีความเคารพนอบน้อมต่อเพื่อมที่ทำกิจกรรมร่วมกัน
- ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นอย่างมีสิ
กระบวนการดำเนินกิจกรรม
- พูดคุยสนทนาทักทายกันตอนเช้า
- Brain gym 3 ท่า ขนมจีบ-ถาดรูปตัวแอบ, สุนัขจิ่งจอก-กระต่าย,สุนัขจิ้งจอก-ขนมจีบ
- ครูดอกไม้เริ่มต้นเล่าเรื่องรามความประทับใจในครั้งแรกที่ได้เข้ามาภายในบริเวรโรงเรียนของเรา
- ครูและเด็กๆสร้างข้อตกลงร่วมกันว่าเมื่อแสงเทียนไปถึงด้านหน้าของใครคนนั้นจะเล่าเรื่องราวความประทับใจที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียนของเราถ่ายทอดให้ครูและเพื่อนฟังอย่างตั้งใจ
- ครูเริ่มส่งแก้วน้ำที่มีเทียนลอยอยู่ให้พี่ๆเล่าเรื่องราวความประทับใจที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียนทีละคน
สื่อ : แก้วน้ำ / เทียน
คุณครูฝนร่วมสะท้อนกิจกรรมดังนี้ค่ะ
- ครูเตรียมอุปกรณ์พร้อมและน่าสนใจโดยใช้น้ำสีและเทียน
- เรื่องเล่าถ่ายทอดประสบการณ์ของครูทำให้เด็กเข้าใจประเด็นที่ชัดเจนมากขึ้น
- เมื่อนักเรียนเล่าความประทับใจเรียบร้อยแล้วครูอาจเพิ่มคำถามต่อ เช่น เพราะเหตุใด............
- ก่อนถ่ายทอดเรื่องราวครูอาจเตรียมเช่น
    ให้เด็กหลับตา 1-2 นาที
ให้พี่ๆช่วยนึกย้อนไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เดือนที่แล้ว ปีที่แล้ว ตอนเราอยู่ป.3 ป.2 ป.1 และตอนอนุบาล มีเหตุการณ์ใดบ้างที่เกิดขึ้นกับเราเหตุการณ์ใดบ้างที่เราประทับใจไม่รู้ลืม มีใครบ้างที่อยู่ในเหตุการณืนั้น?
ทุกคนลืมตารอฟังเรื่องราวดีๆจากเพื่อนของเราด้วยความตั้งใจ

วันพุธที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2558

แนวทางการทำงานพัฒนาครูใหม่

พวกเราปรับเปลี่ยนรูปแบบการพัฒนาครูใหม่ให้เข้าใจง่ายยิ่งขึ้น
ออกแบบเป็นModel ให้ผู้นำไปใช้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้นครับ         ครูกลุ่ม 2 ร่างแนวทางการทำงานครูกลุ่ม 2 กับครูน้องใหม่ มาให้ครูใหญ่ดูและเสนอแนะกิจกรรมเพิ่มเติมค่ะ หากเรียบร้อยแล้วจึงจะจัดส่งให้กับครูที่เกี่วข้องต่อไปค่ะ
*หมายเหตุ ตลอดปีการศึกษา ครูน้ำผึ้ง – ครู่อุ๋ม, ครูสังข์ – ครูหนัน, ครูกลอย – ครูเหมี่ยว, ครูฝน – ครูบาส, ครูฟ้า – ครูดอกไม้, ครูแดง – ครูนิ่ม, ครูเจษ-ครูนัท, ครูต๊อก-ครูต้น, ครูเส็ง - ครูจูล, ครูป้อม - ครูแต
ขอบคุณค่ะ/ครูเจษ
หลังจากที่พวกเราประชุมย่อยหลายรอบ
จากนั้นพวกเรากลุ่ม 2 ได้แบ่งงานให้น้องครูกลุ่ม 1
โดย..ครูฟ้า

แผนกิจกรรมพัฒนาศักยภาพครู (ระยะยาว)

หลังจากที่คุณครูทุกคนกลับมาจาก อ.ปากช่อง
เปิดเรียนมาใน Quarter 4 พี่กลุ่ม 2 ให้น้องครูกลุ่มหนึ่งนำโดยครูต้น จัดกิจกรรมกีฬาสัมพันธ์ขึ้น ดังนี้
ช่วงเย็นครูทุกคนร่วมรับประทานอาหารเย็นร่วมกันที่บ้านคุณครูใหญ่
โดย..ครูสังข์

จากนั้นพวกเราประชุมร่วมกันครูใหญ่..
          ครูกลุุ่ม 2 วางแผนโปรแกรมพัฒนาครูรุ่นน้อง ซึ่งขอปรึกษาคุณครูทุกท่านเกี่ยวกับกิจกรรมที่ครูกลุ่ม 2 ได้วางแผนร่วมกันว่ามีส่วนที่ต้องการเพิ่มเติมหรือเสนอแนะเกี่ยวกับกิจกิจกรรมอย่างไรบ้าง หากคุณครูท่านใดมีข้อเสนอแนะเพิ่มทางครูกลุ่ม 2 ยินดีนำไปปรับใช้เพื่อพัฒนาตัวเองและครูรุ่นน้องต่อไป ซึ่งรูปแบบกิจกรรมมี ดังนี้

ลำดับที่
รูปแบบกิจกรรม
กิจกรรมย่อย
ระยะเวลาในการทำกิจกรรม
ผู้รับผิดชอบ
หมายเหตุ
1
PLC

1.เริ่มต้นด้วยกิจกรรมจิตศึกษา /กำกับสติ /เทคนิคการเก็บเด็ก /การนำสติสนทนามาปรับใช้/เครื่องมือคิด
2.ประเด็นในการพัฒนา / BAR /AAR
3.ดูแผนการสอน PBLแลกเปลี่ยน/เพิ่มเติมกิจกรรม/ติดตามความคืบหน้าของการทำแผน
สัปดาห์ละ 1 ครั้ง
ครูกลุ่ม 2
ครูกลุ่ม 2 จะวางแผนการทำกิจกรรม
2
จิตศึกษา
1.ครูกลุ่มที่ 1 แต่ละคนเวียนทำกิจกรรมจิตศึกษาทุกช่วงชั้น ตั้งแต่อนุบาล ช่วงชั้น 1, 2 และ โดยนำเสนอรูปแบบกิจกรรมกับครูประจำชั้นก่อนการทำ
2.กิจกรรมมีเป้าหมายที่ชัดเจน
3.ใช้สติ สมาธิ สอดแทรกในกิจกรรม
อย่างน้อยQuarter ละ 4 ครั้ง
ครูกลุ่ม 1
ครูกลุ่ม 2
ครูประจำชั้น

3
สังเกตการสอนครูรุ่นพี่
สังเกตกระบวนจัดการเรียนรู้เพื่อนำมาปรับใช้กับตนเอง/เทคนิคการเก็บเด็ก/การจัดการในชั้นเรียน
อย่างน้อย 1 ครั้ง/สัปดาห์

ครูกลุ่ม 1
ครูกลุ่ม 2
ครูประจำชั้น


4
เข้าร่วมอบรมพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้

- เรียนรู้วิถี
- กระบวนการจัดการเรียนรู้ (PBL,จิตศึกษาคณิตฯ,ภาษาไทย)

2 ครั้ง/ Quarter
ครูกลุ่ม 1
ครูกลุ่ม 2
ฝ่ายอบรมเผยแพร่สื่อและนวัตกรรม
ทุกคนเข้าร่วมเรียนรู้วิถีและกระบวนการจัดการเรียนรู้
5
กีฬาสัมพันธ์
กีฬาสัมพันธ์จะจัดขึ้นในสัปดาห์ที่ 1, 3, 5, 7  และ 9

ตามความเหมาะสม
บุคคลากรในโรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา
- ครูกลุ่ม 1 รับผิดชอบและจะนัดหมายเวลาในการทำกิจกรรม
-  ในสัปดาห์ที่ 5 จัดกีฬาสัมพันธ์ร่วมกันครูกับพนักงาน
6
จิตอาสา
- กิจกรรมขนทราย
- ทำปุ๋ยหมัก
- ปรับภูมิทัศน์
- แบ่งเขตรับผิดชอบดูแลพื้นที่ในโรงเรียน

ตามความเหมาะสม
ครูกลุ่ม 1
ครูกลุ่ม 2

กิจกรรมจะเกิดขึ้นตามความเหมาะสม

โดย..ครูเส็ง

วันจันทร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2558

ตารางเวียนทำกิจกรรมจิตศึกษาครูน้องกลุ่มที่ 1

       ครูพี่กลุ่มที่ 2 ขอแจ้งตารางเวียนทำกิจกรรมจิตศึกษาครูน้องกลุ่มที่ 1

ตารางเวียนทำกิจกรรมจิตศึกษาครูน้องกลุ่มที่ 1
     ครูกลุ่มที่ 1 แต่ละคนเวียนทำกิจกรรมจิตศึกษาทุกช่วงชั้น ตั้งแต่อนุบาล ช่วงชั้น 1, 2 และ 3 โดยนำเสนอรูปแบบกิจกรรมกับครูประจำชั้นก่อนการทำกิจกรรม 
 (อย่างน้อย Quarter ละ 4 ครั้ง)

วันศุกร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2558

พี่พบน้องครั้งที่ห้า(2)..วันที่ 27 ณ อ.ปากช่อง

พวกเราและครูปรีดาพร้อมกับลูกศิษย์อีก 6 คน ร่วมกันเดินขึ้นเขาทุกคนหอบข้าวของพะรุงพะรังเดินกันไปตามทางดินแคบมีผงฝุ่นปกคลุมเต็มทั่วถนนและขรุขระ มีวัชพืชขึ้นปกคลุมเป็นหย่อม สองของทางกระหนาบด้วยป่ารก ต้นไม้เบียดเสียดสลับสล้าง ลมสงัด อากาศขมุกขมัวและอ้าวจัด แต่บางคราลมพัดแหวกแมกไม้เข้ามาเย็นชื่น

            09.30 น. แต่ละคนเริ่มจะมีอาการเมื่อยล้าเห็นทันตา สังเกตได้จากเดินไปพากันหยุดพักไป เคยได้ยินมาว่าระยะทางเดินขึ้นเขาเพียง 1 กิโลเมตรเทียบได้กับระยะทางปกติ 5 กิโลเมตร ทางเดินขึ้นสูงชันและผิวหินแห้งราบเรียบทำให้ลื่นง่ายและต้องจับมือต่อๆกันระหว่างเดิน รอบกายต้นไม้สูงชะลูดแผ่ใบเขียวครึ้มให้ร่มเงามีเป็นจุดๆตามรายทางเดิน พวกเราทุกคนเดินขึ้นสู่ยอดเขา 09.52 น. ทุกคนได้ถ่ายภาพชมวิวตามจุดต่างๆ ที่แต่ละคนเลือกให้เห็นทิวทัศน์รอบด้าน ความสูงของเนินทำให้ขอบฟ้าตกลงมาอยู่ใต้ระดับสายตา ต่ำลงไปเป็นแนวกรวดหินระเกะระกะเป็นหย่อมๆ ปลายอีกด้านเป็นผาเอียง ชะง่อนโขดหินลดหลั่นกันลาดลงจรดพื้นดิน ลึกลงไปเป็นป่ามันป่า
ข้าวโพดของชาวบ้าน และท้องทุ้งหญ้าเขียวไสว พลิกพลิ้วทางใบคลอกับสายลมอ่อนเอื่อย พอได้สักพักคุณครูหลายๆ คนเมื่อยล้าเห็นได้ชัด หาบริเวนเอนแผ่นหลังนอนพักร่างกายเพื่อที่จะสัมผัสกับความสงบ สงัด และงดงาม ของธรรมชาติ สะกดให้ทุกคนเงียบงันดื่มด่ำจมลึกอยู่กับตัวเอง และจากนั้นพวกเราทุกคนเดินลงจากเขาลงมารับประทานอาหารเที่ยงร่วมกับครูปรีดาบริเวณด้าน
ล่างบริเวณระหว่างหุบเขา ทุกคนทานอาหารด้วยความเอร็ดอร่อยและนั่งพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ทุกคนสีหน้าสีหน้าระรื่น หัวเราะร่วน หน้าแดง นัยน์ตาซุกซน หยอกล้อกันด้วยความสนุกสนาน และราวกับว่าทุกคนหลุดพ้นจากชีวิตที่ตรึงอยู่กับกฎระเบียบเคร่งครัดของโรงเรียนฉากชีวิตส่วนนั้นปิดลงแล้ว เพื่อทุกคนให้หลงลืมจากอาการของความเหนื่อยล้าและทุกคนได้แบ่งปันอาหารซึ่งกันและกัน ส้มเนื้อ แจ่วปลาร้าสับ ตำส้ม และเนื้อทอด

           ยามบ่ายคล้อยผ่านอย่างสงบพวกเรากลับมาถึงที่พัก ดวงตะวันโคจรข้ามเนินเขาแล้วตกลงสู่ผืนหญ้าและผืนผิวน้ำจากเขื่อนลำตะคอง วันหนึ่งๆถูกกำหนดอยู่ด้วยทิศทางดังกล่าว 15.30 น. เรานัดน้องที่อาสามาเตรียมกับข้าวในมื้อค่ำร่วมกับเราโดยมื้อนี้จะมีกลุ่มครูใหญ่และครูอีก 6-7 คนเข้ามาร่วมสมทบด้วย

ทุกคนอาบน้ำแต่งตัว จัดเตรียมสถานที่ที่จะใช้ทำกิจกรรมรอบกองไฟในยามค่ำ เสร็จสรรพมาพร้องเพรียงกันในเวลา 17.30 น. ทุกคนเริ่มมาอยู่บริเวณรอบกองไฟเผามัน ย่างหมู กลิ่นหอมโชยไปทั่วบริเวณ หลายๆคนก็คุยกันด้วยเรื่องจิปาถะ สนทนาพาทีครอบคลุมหลากหลายเรื่องโรงเรียน เรื่องบ้าน

            19.45 น. พวกเราทุกคนเห็นว่าได้เวลาอันควรแล้ว คุณครูน้ำผึ้งจึงเริ่มกล่าวทักทายทุกคนในวงรอบกองไฟ และพูดถึงความเป็นมาของกิจกรรมที่นำพาเราทุกคนมาอยู่ที่นี่ร่วมกันในเวลานี้ “แต่ละคนอยากบอกอะไร” เป็นคำถามสั้นๆแต่แฝงไปด้วยเป้าหมายที่พวกเราตั้งไว้ก่อนหน้านี้ คุณครูร่วม 40 ชีวิตและครูปรีดามาอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ทุกคนร่วมอิ่มเอมกับเรื่องราวของแต่ละคนที่บอกถึงอารมณ์ความรู้สึกจังหวะของชีวิตของแต่ละคนเป็นที่น่าจดจำ เปลือกชั้นแรกของราตรีกำลังผ่านพ้น โลกเคลื่อนผ่านสู่ห้วงเวลาของการผ่อนพัก ความมืดนิ่งสนิทแอบซุ่มกลั่นเคี่ยวตัวเองอย่างเงียบงัน ผืนน้ำบริเวณเขื่อนลำตะคองสลัวรางแทบจะอันตรธารไป แต่แล้วปรากฏขึ้นอีกครั้งเมื่อเพ่งจ้อง เบื้องบนดาวสาดแสงจาง จุดแสงสาดกระเซ็นกระจัดกระจาย คงแต่ผืนความมืดที่ผนึกดวงดาวเอาไว้ด้วยกันบนฟากฟ้า ไม่ต่างจากเด็กหนุ่มสาวเหล่า(คุณครูใหม่)นี้ พวกเขาจมลงกับห้วงคิดในความลึกซึ้งของค่ำคืน ต่างเผชิญกับความลี้ลับอันหอมหวานและเก็บเกี่ยวประสบการณ์เหล่านี้ เสมือนได้โลดข้ามพรมแดนหนึ่งของชีวิตไปด้วยกัน
 พริ้วสายลมชื่นกายคลายถึงจิต              หมู่มวลมิตรมุ่งหมายคลายหมองหม่น
สายสัมพันธ์สรรค์สร้างกลางใจคน         หวังได้ยลไมตรีจิตมิตรกัลยา
ออกเดินทางก่อนเที่ยงเลี่ยงค่ำมืด         หวังช่วยยืดเวลาพาสุขสม
กลับหลงทางเตลิดไกลไข่ระบม             เรือนน่าชมให้แช่มชื่นรื่นฤทัย
เข้าที่พักทักทายคลายเหน็ดเหนื่อย       ทานเรื่อยๆสนทนาคราเดือนหงาย
แลท้องฟ้าดาราเด่นเห็นพร่างราย          มิตรสหายได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้นิทาน
เสียงหนักเบาสูงต่ำเงียบเร็วช้า               กระบวนท่าจอมยุทธ์จุดขัดข้อง
ผู้ชนะสิบทิศควรจับจอง                         ลูกทุ่งต้องหาฟังคลังคำมี
แต่งนิทานตัวละครมิควรมาก                 แม้งานยากมีวินัยไม่หน่ายหนี
ทั้งงานราษฎร์งานหลวงล่วงลุดี              สุนทรียสนทนาพาทีเอย
เสียงเจื้อยแจ้วแนวบันไดใกล้รุ่งสาง       ดังครวญครางข้างในเต้นท์เสียงกรนหนอ
ตีสามแล้วขอผัดผ่อนสักครึ่งพอ             สุดท้ายก็ตัดสินใจไปทันที
โหมแรงไฟแรงฟืนตื่นเช้าตรู่                   ต่างพร่างพรูเพียบพร้อมอย่างด่วนจี๋
วัตถุดิบเครื่องปรุงเน้นรสดี                     เสร็จพอดีตีห้าครึ่งบึ่งจับนม
แลดูโคท่าทีมีระเบียบ                            เดินเงียบๆแล้วต่อแถวแสนสุขสม
แหมตื่นตาตื่นใจได้จับนม                      บ้างก็อมยิ้มหวานสราญใจ
กิจกรรมสันทนาการดีเลิศ                      ช่วยให้เปิดตาตื่นชื่นสดใส
เตรียมตัวปีนเขาต่อให้ท้อใจ                  อีกนานไหมกว่าจะฮอดรอดไหมตรู
เด็กๆต่างเริงร่าระรื่นจิต                         เพราะชีวิตเคยชินขึ้นลงเขา
แตกต่างจากคนแก่ๆอย่างพวกเรา         อุ๊ยเจ็บเข่าโอ๊ยปวดหลังประดังมา
ถึงยอดแรกมองหน้าพอยิ้มได้               ยอดต่อไปจะไหวหรือเปล่าหนอ
ชวนให้นึกถึงหน้าแม่และพ่อ                 โอ้ละหนอลมพัดตึ้งถึงแล้วโว๊ย
ค่อยเดินย่องลงทางพลางเท้าจิก          ขากระดิกแขนเริ่มสั่นท้องหิวโหย
ของก็หนักแขนก็เหนื่อยเมื่อยอิดโรย      มาละโหวยอาหารเที่ยงของพวกเรา
ปลาร้าบองของทอดมีปลาหมู               ทั้งปลาทูส้มต่อนออนซอนหลาย
ทั้งกล้วยสุกข้าวต้มผัดมีมากมาย          อิ่มสบายหายกังวลคนเดินทาง
ถึงที่นอนผ่อนพักตระหนักรู้                   แล้วไปสู่โลกพระอินทร์ถิ่นสวรรค์
สะดุ้งตื่นฟื้นสติอ้าวกลางวัน                  สุขดั่งฝัน ณ ปากช่องพี่น้องเอย
(บทกลอนจากครูสังข์)
            เวลา 21.25 น. คุณครูหลายๆคนแยกย้ายเข้านอนผ่อนพักร่างกายจากกิจกรรมตลอดทั้งวันตั้งแต่เช้าตรู่ อากาศหนาวเหน็บทำให้คุณครูหลายๆคนนอนหมกตัวในผ้าห่มอย่างเงียบกริบในเวลาแสนสั้น ครูใหญ่และครูอีกกลุ่มนั่งขับร้องเพลงเล่นกีตาร์บริเวณกองไฟจนล่วงเลยผ่านวันที่ 27 มาเป็นวันที่ 28 จึงแยกย้ายกันเข้านอน
            ทุกคนตื่นแต่เช้าตรู่ เบิกนัยน์ตางัวเงียมองดูแสงสีทองแผ่ขึ้นสู่โค้งฟ้า ฟังเสียงชีวิตตื่นจากการหลับใหล ริ้วเมฆริมขอบฟ้าที่เปลี่ยนสีอย่างรวดเร็ว จากแดงกลายเป็นส้มสุกใส อึดใจทุกอย่างก็ดูราวถูกฉาบด้วยแผ่นทองอร่าม ทุกคนแลเห็นโฉมหน้าของธรรมชาติผันแปรแน่ชัดไปตามการคล้อยเคลื่อนของดวงอาทิตย์ กลางวันเปลือยตัวเองออกมาแจ่มกระจ่าง กลางคืนมืดสนิทสุดหยั่งน่าเปล่าเปลี่ยว วันเวลาหมุนเวียนจากเช้ายันค่ำ วันหนึ่งสู่อีกวันหนึ่ง

วันอาทิตย์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2558

พี่พบน้องครั้งที่ห้า(1)..วันที่ 26 ณ อ.ปากช่อง

            วัยหวานแห่งความหวัง (ครูใหม่) ความเฉียบไว และเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งความต้องการเรียนรู้สิ่งใหม่ที่จะเข้ามาแผ้วพานชีวิตของน้องทุกคน สิ่งที่พวกเราอยากให้เกิดขึ้นกับ
 น้องครูใหม่ตลอดการจัดกิจกรรมทุกครั้ง/ทุกสถานที่ ก่อนหน้าที่กิจกรรมพี่พบน้องนอกสถานที่จะเกิดขึ้นนี้ พวกเราคุยกันประชุมเตรียมงานกันอยู่หลายรอบ จนกระทั่งเราได้ข้อสรุปกำหนดการและวันเวลาจัดกิจกรรมลงตัว

10.30 น. ของวันที่ 26 ธันวา ซึ่งเป็นวันงานบุญคูณลานทำบุญตักบาตรก่อนขึ้นปีใหม่ พวกเราครูกลุ่ม 2 กับน้องครูใหม่นัดพบกันที่บริเวณด้านหน้าโรงเรียนเพื่อขึ้นรถตู้ 2 คัน และรถกระบะ 1 คัน
เพื่อขนสัมภาระของทุกคน พวกเราถึงอำเภอปากช่องประมาณ 3 โมงเย็น พอไปถึงที่พักแต่ละคนช่วยกันเก็บสัมภาระข้าวของจัดเตรียมสถานที่ในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นอีกตลอด 2 คืน 3 วัน(ไม่มีไฟฟ้า) อย่างลงตัว แล้วจากนั้นครูทุกคนไปทานข้าวเย็นที่บ้านของครูปรีดา ปัญญาจันทร์
เราเริ่มทานข้าว 17.45 น. ด้วยบรรยากาศที่เรียบง่ายสบายๆ อาหารในค่ำนี้มี ปลาทอด ต้มไก่ ลาบ เครื่องดื่ม ฯลฯ หลังจากทานข้าวอิ่มกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทุกคนช่วยกันล้างจานเก็บสถานที่ เตรียมตัวพบกับครูปรีดา

19.00 น. ครูปรีดาเริ่มต้นกิจกรรมโดยเปิดโอกาสให้ทุกคนตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ ที่แต่ละคนอยากเรียนรู้จากครูปรีดา คำถามต่างคำถามพลั่งพลูออกมาไม่ขาดสายจากคุณครูหลายๆ คน ครูปรีดาเล่าว่านิทานแต่ละเรื่องที่เขียนมีแรงบันดาลใจมาจากความประทับใจและสะเทือนใจหรือกระทบจิตใจ  คิดออกตอนไหนต้องรีบเขียนเก็บไว้ทันที
          สิ่งที่ครูปรีดาสอนพวกเราจากกิจกรรมค่ำคืนนี้
ภาษาวรรณกรรมที่ใช้เขียนมาจากการอ่าน และการฟังโดยเฉพาะฟังเพลงลูกทุ่ง
สิ่งที่สำคัญในการบริหารจัดการกับตนเองและเวลา คือ วินัยในตนเอง
เทคนิคการเล่านิทาน   7 อย่างดังนี้ เสียงดัง เบา , เร็ว ช้า , เสียงสูง ต่ำ ,เงียบ
การที่เราจะเป็นนักเขียนเราต้องเป็นนักอ่านด้วย
การเล่านิทานไม่ควรเล่านอกเรื่องหรือถามระหว่างทาง ควรเล่าให้จบในครั้งเดียว เสียงเป็นเสียงธรรมชาติ
การเล่านิทานให้น่าสนใจควรจินตนาการว่าตัวเองเป็นตัวละครเรื่องนั้นๆ เป็นต้น
ครูปรีดาชวนน้องๆ ตั้งคำถามไปจนกระทั่งเวลา 21.00 น. เห็นว่าได้เวลาพอสมควรแล้วจึงให้ทุนคนแยกย้ายเข้าที่พัก
*พวกเราแจ้งนักน้องทุกคนตีห้าเพื่อตื่นมาทำข้าวเช้าร่วมกับพี่ๆ ได้น้อง 4-5 คนอาสาสมัครในเช้าวันแรก และแจ้งกำหนดการตอนเช้ากับน้องๆ ว่าครูปรีดาจะพาไปรีดนมวัวแต่เช้าตรู่
            พวกเราทุกคนนอนหลับกันอย่างสบายทามกลางอากาศที่หนาวเหน็บ มีลมเย็นโชยมาไม่ขาดสาย ลมพัดมาจากเขื่อนลำตะคลอง

วันที่ 27 ธันวาคม 2557

03.45 น. พี่ๆหลายคนตื่นมาเตรียมอาหารเช้าก่อนกำหนดโดยไม่ได้นัดหมาย เพราะอากาศหนาวเย็นเหลือเกิน นอนหลับอย่างสบายขณะที่นอนหมกตัวในผ้าห่มแสนอบอุ่นในเต็นท์ของแต่ละคน พวกเราช่วยกันเตรียมอาหารเช้าและเตรียมที่จะห่อข้าวขึ้นไปกินกันบนภูเขา (ที่พวกเรายังไม่รู้เลยว่าข้างบนนั้นจะเป็นอย่างไร) 04.30 น. น้องๆที่อาสามาช่วยพี่ก็ทยอยมาช่วยกันทีละคนสองคน
05.00 น. กิจกรรมเช้าตรู่เช่นนี้ครูปรีดานัดครูไปดูการรีดนมวัวที่หมู่บ้านบริเวณใกล้ที่พัก พวกเราหลายๆคนได้สาทิตการรีดนมวัวอย่างสนุกสนานในยามเช้านี้ พอกลับมาพวกเราทุกคนเข้าร่วมกิจกรรมOD กิจกรรมสันทนาการความสามัคคี ความเสียสละ โดยครูน้ำผึ้งพาทุกคนทำกายบริหารสั้นๆ ก่อนที่จะแบ่งทีมละ 3 คน ช่วยกันทำกิจกรรมOD(ส่งขวดโดยไม่ใช้มือ , ลำเลียงเมล็ดพันธุ์ใส่ขวด) 

จนถึงเวลา 07.30 น. ถึง 08.25 น. พวกเราให้น้องทานข้าวเช้าตามอัธยาศัยและอาบน้ำแต่ง จนกระทั่งเวลา 08.30 น. พวกเรานัดกันพร้อมเพรียงที่บ้ายครูปรีดาเพื่อที่จะเรียมตัวเดินขึ้นเขากันพร้อมกับเหล่าผู้นำทางที่ครูปรีดาเชิญชวนมาเดินทางร่วมกัน